จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันศุกร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2555

ความเชื่อที่ขาดการพิจารณา เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด ซื้อตามเซียนไม่ขาดทุน จริงหรือ?

คุณ เชื่อไหมว่าเดือนตามผู้ใหญ่มาไม่กัด ???


มีเด็ก 2 คน สนทนากัน ระหว่างทางที่ต้องเดินกลับบ้าน โดยเส้นทางนั้นเลี่ยงไม่ได้ ที่จะเจอ สุนัข พันธุ์ดุร้าย
เด็กA: จะทำยังไงดี ต้องเดินผ่านทุกวัน เสียวชะมัด ??
เด็กB: เอางี้ไหม เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด ครูที่ รร. เคยบอกไว้ ??
เด็กA: อืม ใช่ ที่บ้านฉันก็เคยบอกว่า ให้เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด งี้ เรารอ
             ผู้ใหญ่ผ่านมาแล้วเราเดินตามไปด้วยกันเลยนะ
เด็กB:จัด ไป !!!!

ว่าแล้ว ทั้ง 2 คนก็จูงมือกันกระหนุงกระหนิง รอผู้ใหญ่เดินผ่านมา ก็ ตามก้นไปเลยติดๆ
1st day : ก็เดินตามผู้ใหญ่ไป ปรากฏว่าหมาไม่กัด เอ้ย ยังงี้ที่เค้าว่ากันมา แสดงว่าจริงอ่ะเดะ
2nd day : ก็เดินตามเหมือนเดิม ปรากฏว่า ไม่กัดเหมือนเดิม
3rd day : ไม่กัด
4th day : ไม่กัด
5th day : ไม่กัด




เด็กทั้งสองก็คุยกัน โอ้ว บร๊ะเจ้า โจ๊กมาก เราลองเดินดมก้นผู้ใหญ่มา 5 วันไม่กัดเลย ยังงี้เรากลับบ้านสบายตลอดชีฟเป็นแน่แท้

6th day : หลังจากที่น้องหมา จ้องมา 5 วัน พอมาวันนี้ น้องหมา เริ่มจ้องมองทั้งคู่เดินผ่านไปและเริ่มเดินตาม ทำท่าจะวิ่ง  เข้ามาหาเด็กทั้ง 2 ที่กำลัง เดินตาม ผู้ใหญ่ อย่างสบายใจ จน ทันใดนั้น น้องหมา ก็อ้าปากกำลังจะฝังเขี้ยวลงไป ที่ขา เด็กB ทันทีที่มันเห็นว่าทั้ง 2 คนเผลอ แต่โชคยังดี ที่ มี รถ สวนมาพอดี และบีบแตร เสียงดัง ทำให้ น้องหมา ตกใจและ รีบวิ่งกลับไป ทำให้ทั้ง 2 คน รอดมาได้ โดยที่ไม่รู้ตัวว่า ภัยกำลังจะคุกคามมาแล้ว
7th day : เด็กทั้ง 2 ก็ยังคงเดินตาม เหมือนเดิม และ หวยก็ออกที่ทั้ง 2 คนวันนี้พอดี หลังจากที่ เจ้าน้องหมาวิ่งเข้ามาจากด้านหลัง และ ฝังเขี้ยว ไปที่ ขาของเด็ก A พอดี เด็ก B พยายามจะช่วยก็ไม่วายโดน กัดที่ แขนด้วย จนผู้คนแถบนั้นต้องรีบช่วยเด็กและนำส่ง รพ.ทันที  

หลังจากที่ทั้งสองรักษาตัวอยู่ก็ได้เถียงกันว่า ทำไมน้องหมามันถึงกล้ามากัดเราได้ ไหนบอกว่าเดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัดไง ก็โยน ความผิดกันไปมา โทษเพื่อน โทษน้องหมา โทษผู้ใหญ่ โทษทุกอย่าง แต่ไม่โทษตัวเองที่เชื่ออย่างหมดใจ ว่าคนเค้าบอกกันมาว่าเดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด  เราก็ทำตามอย่างไม่ลังเล

ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เดินตามผู้ใหญ่ หมาไม่กัดจริงหรือ???
ถ้าหมามันจะกัด คนที่อ่อนแอกว่า และคนที่เผลอประมาท มันผิดไหม?
แล้วถ้าเดินนำหน้าผู้ใหญ่ล่ะ หมาจะกัดไหม?? มันอาจจะมองว่า เด็กสองคนนี้มันเก่งแฮะเดินนำผู้ใหญ่ ช่างกล้าหาญ ไม่ยุ่งดีกว่าก็มีโอกาสเป็นไปได้ไหม??

สิ่งพวกนี้เราไม่รู้หรอกว่า น้องหมา มันจะกัด หรือไม่กัด เพราะ มันเป็น Probability ความน่าจะเป็นเท่านั้น!! 
ตอนที่เราทดสอบ เราจะรู้ได้ไงว่า 5 ครั้งแรกที่เราไม่โดนกัด แล้วเราจะไม่โดนกัดตลอดไป??
หากลองทดสอบใหม่ มันอาจจะกัดตั้งแต่ ครั้งแรก หรือ ครั้งที่ 2 หรือ 3 แล้วครั้งที่ 4 มันขี้เกียจกัด เป็นไปได้ไหม??
แล้วสิ่งที่เราควรจะทำคือ การทดลองและทดสอบ  ไม่ประมาท ไม่ใช่เชื่อ คนที่มีอายุมากกว่า หรือมี วุฒิมากกว่าอย่างหมดใจ ว่าทำแบบไหนถูก ทำแบบไหนผิด แล้วเราต้องเดินตามตลอด ถามว่า ถ้าเดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด  แล้วถ้าหมามันคึกอยากกัด จะมีใครมารับผิดชอบไหม??



ยกตัวอย่างให้เห็นภาพพอประมาณ แล้วถ้านำมาเปรียบเทียบกับการลงทุน หล่ะครับ ??

Broker ส่งเมลมาให้ซื้อนั่น ซื้อนี่ มี Upside โน่นนี่ หรือบอกหุ้นเด็ดยังกะใบ้หวย !!
เพื่อนได้ insider มาบอกว่า เจ้ากำลังจะปั่น หุ้นตัวโน้น นี้ หรือแม้กระทั่ง เซียนหุ้นฟันธง ว่าขึ้นแน่ ลงแน่ !!



ถามว่า แล้วถ้าไม่เป็น อย่างที่เค้าบอกเค้าฟันธงไว้ล่ะ เค้ามารับผิดชอบกับเราไหม ถ้าคุณขาดทุน แล้วเค้ามาขาดกับคุณด้วยไหม !! ไม่มีหรอกครับ ความเสี่ยงของเรา เราก็ต้องรับมือคนเดียว ก่อนจะซื้ออะไรควรวางแผนหรือเงื่อนไข ว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ แบบนี้ จะเข้าซื้อ และถือไปจน เกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วถ้าซื้อแล้วมันไม่ขึ้น แล้วลงต่อ ก็กำหนด จุดตัดขาดทุน ให้มันสิ 5% หรือ หลุด ค่าเฉลี่ยสั้นๆ 5-10 periods ก็ว่ากันไป ตามความเสี่ยงของแต่ละคนที่ยอมรับได้ ดีกว่า อย่าถามคนโน้นคนนี้ว่าหุ้นโน่นนี่ดีไหมเลย ถ้าเค้าบอกว่าดี คุณจะซื้อไหม? ราคาตอนนี้มันแพงแล้วนะ  แล้วถ้าบอกว่าไม่ดี คุณจะกล้าขายไหม? ซื้อมาตั้งแพงเกือบยอดดอย ความเสี่ยงของเรา เรากำหนดเองดีกว่าครับ เพราะถ้าเราซื้อหรือขายแล้วมันไม่เป็นอย่างที่เราคิดไว้ก็แค่ทำแผนการที่เราวางมา แต่ถ้าทำตามคนอื่น  บอกโน่นนี่ เย็นนี้ DAX ลง คืนนี้ Dow ลง พรุ่งนี้ปู่  Set ลงแน่ ซื้อ Short ก่อนตลาดปิด 17.00 รอไว้เลย แล้วถ้าพรุ่งนี้ปู่ Set เด้ง ขึ้นแรง + ไป 10 จุด คุณขาดทุน 11,000 รวมค่าคอม คุณทนไม่ไหว ปิด Position พอคุณปิดปุ้บมันลงพอดี แล้ว ตลาดก็กลั่นแกล้ง ลงต่ำกว่าจุดที่คุณซื้อมา 10 จุดในตอนแรก ถ้าคนทนถือต่อคุณได้ 9,000 รวมหักค่าคอมไปแล้ว หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คุณจะโทษใคร พี่ DAX พี่ DOW จะมารับรู้กับคุณไหม คราวนี้คุณก็คงโยนความผิดไปให้เจ้า บอก เจ้าทำราคา ฝรั่งหัวดำ ตั้ง Bid Offer แกล้งเรา จนเราพ่ายแพ้ยับเยิน หากใครปิด Position แล้วเปิด Long ตามไป คงโดน Drawdown 2 ไม้ ตายอย่างเขียด ผมคิดว่าหลายๆคน คงเคยเจอกับสิ่งเหล่านี้ แล้วก็โทษคนอื่นโดยที่ไม่ได้  โทษตัวเองแล้วก็หันหลังให้ตลาดไป โดยที่ไม่ได้หยิบบทเรียนราคาแพงนี้ ไปปรับปรุงแก้ไข พฤติกรรมการลงทุนหรือทัศนคติในการลงทุนให้ถูกต้อง แล้วก็ไปสอนลูกสอนหลานว่าอย่าลงทุนเลยมันเสี่ยง !!!!

เสี่ยงเพราะคุณเคยเจ๊งมาก่อน จริงไหม ถ้าคุณสำเร็จ ร่ำรวย คุณคงจะสอนวิธีการลงทุนที่ถูกต้องหรือทัศนคติที่ควรในการลงทุนถูกไหม !!!



ดังนั้นแล้ว การเชื่อ โดยที่ไม่ได้ นำมาไตร่ตรอง พิจารณา พินิจพิเคราะห์ หรือทำแบบทดสอบย้อนหลัง (Backing Test) เพื่อ หาความน่าจะเป็น ก่อน ว่าถ้าคุณซื้อขายโดยเงื่อนไขนี้ 10 ปีผ่านมามีกำไร 7 ปี เฉลี่ยปีละ 50% อีก 3 ปี ขาดทุนปีละ 7%  หรือ ได้กำไรทุกปี แต่เฉลี่ยปีละ 10%   คุยก็ถามตัวคุณว่าคุณทนขาดทุนเพื่อกำไรที่เยอะกว่าได้ไหม ถ้าได้ก็เลือกแบบแรก หรือ ถ้าไม่ชอบทนขาดทุนแต่ขอกำไรเพียงปีละ 10% ก็พอและ ก็เลือกแบบหลัง แล้วก็วางแผนต่อไปว่า ถ้าช่วงที่ขาดทุน ขาดทุนเกินกว่า สถิติ ที่เราเคยทดสอบย้อนหลัง เราอาจจะลดขนาดการลงทุนลง หรือ หยุดใช้ระบบการซื้อขายนั้น ก็แล้วแต่ว่าเราจะตัดสินใจอย่างไร เพราะบ่อยครั้งที่ผมเห็นระบบซื้อขายที่กำลังอยู่ในช่วงขาดทุนติดต่อกัน (Drawdown)  กลับมาทำกำไรให้กับ Port ของคุณได้อย่างสวยงามก็มีอยู่บ่อยไป ตราบที่ ตลาดยังมีอารมโลภและกลัวของมนุษย์เป็นที่ตั้งและกำหนดพฤติกรรมการซื้อขาย ทำให้เกิดแนวโน้มTrend ต่างๆ และ Price Pattern ในรูปแบบต่าง ๆ อาจจะไม่เหมือนเป๊ะๆในรูปอย่างที่เค้าเขียนกันไว้ในหนังสือ เพราะอารมณ์ของผู้เล่นอาจจะแตกต่างจากเดิมไปบ้าง แต่มันจะยังคงไว้ซึ่งรูปแบบที่ชัดเจน หากเราตัดช่วงเวลา โดยใช้ Point Figure Chart หรือ Renko Chart ตามบทความล่าสุดของคุณลุง Chaloke มาใช้ ก็จะเห็น Pattern ที่ชัดเจนขึ้น
สรุปเลย อย่าให้ใครมากำหนดความเสี่ยงของเราเลยครับ เงินเราเราเลือกที่จะเสี่ยงในแบบที่เรารับได้เองดีกว่า เช่นเดียวกัน
เงินคนอื่นแต่จะมารับความเสี่ยงของเราก็ไม่ดีเช่นกัน นะครับ การนำเงินคนอื่นมาลงทุน แต่ คนที่นำเงินมาให้ลงทุน อาจจะรับความเสี่ยงได้ไม่เท่าเรา ดังนั้น เงินเราเองดีที่สุดครับ

สำหรับวันนี้ก็เขียนมายาวเหยียด ก็สมควรแก่ความรู้ที่ข้าพเจ้ามีอันน้อยนิด ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ เจอกันใหม่คราวหน้าครับ จะมาทำความรู้จักกับความเสี่ยง (Risk) และ ผลตอบแทน (Reward) เพื่อที่จะได้กล่าวถึงเกี่ยวกับ Money Management ต่อไปนะครับ
TriZung Trader เกรียน ^^